top of page

บทสวดมนต์ แบบง่าย ๆ เพื่อการสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน และ คาถาที่ควรสวดเป็นประจำ

1.) บทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย

อิมินา   สักกาเรนะ   พุทธัง   อะภิปูชะยามิ
อิมินา   สักกาเรนะ   ธัมมัง   อะภิปูชะยามิ
อิมินา   สักกาเรนะ   สังฆัง   อะภิปูชะยามิ 

2.) บทสวดมนต์กราบพระรัตนตรัย

อะระหัง   สัมมาสัมพุทโธ   ภะคะวา   พุทธัง   ภะคะวันตัง  อภิวาเทมิ (กราบ)
สะวากขาโต     ภะคะวะตา   ธัมโม  ธัมมัง   นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน   ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ   สังฆัง   นะมามิ (กราบ)

3.) บทสวดมนต์นมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง   สัมมาสัมพุทโธ   ภะคะวา   พุทธัง   ภะคะวันตัง  อภิวาเทมิ (กราบ)
สะวากขาโต     ภะคะวะตา   ธัมโม  ธัมมัง   นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน   ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ   สังฆัง   นะมามิ (กราบ)

4.) บทสวดมนต์ไตรสรณคมน์

           พุทธัง   สะระณัง  คัจฉามิ
          ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ
          สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ

          ทุติยัมปิ  พุทธัง   สะระณัง  คัจฉามิ
          ทุติยัมปิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ
          ทุติยัมปิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ

          ตะติยัมปิ  พุทธัง   สะระณัง  คัจฉามิ
          ตะติยัมปิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ
          ตะติยัมปิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ

5.) บทสวดมนต์พระคาถาชินบัญชร 

           นโม ๓ จบ

          ชะยาสะนาคะตา  พุทธา  เชตะวา  มารัง  สะวาหะนัง
          จะตุสัจจา  สะภังระสัง  เย ปิวิงสุ  นะราสะภา

          ตัณหังกะราทะโย  พุทธา  อัฏฐะวีสะติ  นายะกา
          สัพเพ  ปะติฏฐิตา  มัยหัง  มัตถะเก  เต  มุนิสสะรา

          สีเส  ปะติฏฐิโต  มัยหัง  พุทโธ  ธัมโม  ทะวิโลจะเน
          สังโฆ  ปะติฏฐิโต  มัยหัง  อุเร  สัพพะคุณากะโร

          หะทะเย  เม  อะนุรุทโธ  สารีปุตโต  จะ  ทักขิเณ
          โกณฑัญโญ  ปิฏฐิภาคัสมิง  โมคคัลลาโน  จะ  วามะเก

          ทักขิเณ  สะวะเน  มัยหัง  อาสุง  อานันทะราหุลา
          กัสสะโป  จะ  มะหานาโม  อุภาสุง  วามะ  โสตะเก

          เกสันเต  ปิฏฐิภาคัสมิง  สุริโย  วะ  ปะภังกะโร
          นิสินโน  สิริสัมปันโน     โสภิโต  มุนิ  ปุงคะโว

          กุมาระกัสสะโป  เถโร    มะเหสี  จิตตะวาทะโก
          โส มัยหัง  วะทะเน  นิจจัง  ปะติฏฐาสิ  คุณากะโร

          ปุณโณ  อังคุลิมาโล  จะ  อุปาลี  นันทะสีวะลี
          เถรา  ปัญจะ  อิเม  ชาตา  นะลาเต  ติละกา  มะมะ

          เสสาสีติ  มะหาเถรา   วิชิตา  ชินะสาวะกา
          เอตาสีติ  มะหาเถรา   ชิตะวันโต  ชิโนระสา
          ชะลันตา  สีละเตเชนะ  อังคะมังเคสุ  สัณฐิตา

          ระตะนัง  ปุระโต  อาสิ    ทักขิเณ  เมตตะสุตตะกัง
          ธะชัคคัง  ปัจฉะโต  อาสิ  วาเม  อังคุลิมาละกัง

          ขันธะโมระปะริตตัญจะ  อาฏานาฏิยะสุตตะกัง
          อากาเส  ฉะทะนัง  อาสิ  เสสา  ปาการะสัณฐิตา

          ชินาณา  วะระสังยุตตา  สัตตะปาการะลังกะตา
          วาตะปิตตา  ทิสัญชาตา  พาหิรัช  ฌัตตุปัททะวา

          อะเสสา  วินะยัง  ยันตุ    อะนันตะ  ชินะเตชะสา
          วะสะโต  เม  สะกิจเจนะ  สะทา  สัมพุทธะปัญชะเร

          ชินะปัญชะระ  มัชฌัมหิ  วิหะรันตัง  มะฮีตะเล
          สะทาปาเลนตุ  มัง  สัพเพ  เต  มะหาปุริสาสะกา

          อิจเจวะมันโต  สุคุตโต  สุรักโข  ชินานุภาเวนะ  ชิตูปัททะโว
          ธัมมานุภาเวนะ  ชิตาริสังโฆ  สังฆานุภาเวนะ  ชิตันตะราโย
          สัมธัมมานุภาวะ  ปาลิโต  จะรามิ  ชินะปัญชะเรติ ฯ

6.) คำแผ่เมตตา

           สัพเพ สัตตา 
          สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น                    

          อะเวรา โหนตุ 
          จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย 

          อัพพะยาปัชฌา โหนตุ        
          จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย    

          อะนีฆา โหนตุ 
          จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย 

          สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ 
          จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ 

7.) คาถาแผ่เมตตาตนเอง

           อะหัง สุขิโต โหมิ 
          ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

          อะหัง นิททุกโข โหมิ 
          ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์ 

          อะหัง อะเวโร โหมิ 
          ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร 

          อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ 
          ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง 

          สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ 
          ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด 

8.) คาถาแผ่ส่วนกุศล

           อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข 

          อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข 

          อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข 

          อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
 
          อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
 
          อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข 

          อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา 
          ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ  

9.) คาถาสะเดาะเคราะห์ (ต่ออายุ)

           (ให้ภาวนาทุกเช้า เย็น คนที่ดวงชะตาไม่ขาดก็ใช้ได้ ถือเป็นการต่อดวงชะตาชีวิต มีอานุภาพให้เกิดโชคลาภ และปราศจากอันตราย) 

          อิติปิ โส ภะคะวา พระอาทิตย์เทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระจันทร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระอังคารเทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระพุทธเทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระพฤหัสเทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระศุกร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระเสาร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระราหูเทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา พระเกตุเทวา วิญญาณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง 
          อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ 
          อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน 
          อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต 
          อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู 
          อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ 
          อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง 
          อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ 
          อิติปิ โส ภะคะวา ภะคะวา ภะคะวาติ   

10.) คำกรวดน้ำ 

           อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย
          ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลาย จงมีความสุขภาย สุขใจเถิด    

11.) คำอาราธนา ศีล5  

           มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ 
          ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุงวิสุง รักขะ นัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ 
          ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ 

          ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 ข้อ พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อประโยชน์แก่ การจะรักษาต่าง ๆ กัน     

12.) คำถวายสังฆทาน (ภัตตาหาร-ทั่วไป)  

           อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต 
          ภิกขุ สังโฆ   อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารนิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

          ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร 
ทั้งหลายเหล่านี้แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของ ที่เป็นบริวารทั้งหลายเหล่านี้  เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ       

12.) คำถวายสังฆทาน (ภัตตาหาร-ทั่วไป)  

           อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต 
          ภิกขุ สังโฆ   อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารนิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

          ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร 
ทั้งหลายเหล่านี้แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของ ที่เป็นบริวารทั้งหลายเหล่านี้  เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ       

เครดิต : WWW.katook.com

13.) คำถวายเครื่องสังเวยพระภูมิ  

           นโม ๓ จบ

          นะโม เม พระภูมิเทวานัง ธูปะทีปะ จะ ปุปผัง สักการะ วันทานัง สูปะพะยัญชะนะสัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง 
          อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ สันติเทวา มะหิทธิกา เตปิ อัมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ       

14.) คำลาเครื่องสังเวยพระภูมิ 

           อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะสีละ เนกขัมมะปัญญา สะหะ วิริยะ ขันตี สัจจาธิฏฐานะ เมตตุเปกขายุทธายะโว ทิสสาวินะติ อะเสสะโต       

15.)  คำถวายข้าวพระพุทธ 

           อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ
          ข้าพเจ้าขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับและน้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า    

16.)  คำลาข้าวพระพุทธ 

           เสสัง มังคะลัง ยาจามิฯ
          ข้าพเจ้าขอคืนเศษอันเป็นมงคลนี้ ข้าพเจ้าขอภัตต์ที่เหลือที่เป็นมงคลด้วยเถิด    

เครดิต : WWW.sanook.com

บทสวดมนต์ก่อนนอน นับเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ โดยที่ในแต่ละวันเราต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องที่ทำให้ชีวิตเป็นสุข ไปจนถึงเรื่องราวแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตวุ่นวาย เมื่อกลับถึงบ้านเราต่างก็ต้องการเวลาพักผ่อน อยากนอนหลับสบายเพื่อลืมเรื่องราวแย่ๆ 

การท่องบทสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยให้เรามีสมาธิ จิตใจสงบ ผ่องใส อีกทั้งยังเป็นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำมาในแต่ละวันให้กับเพื่อนมนุษย์ หรือสรรพสัตว์ต่างๆ บนโลก เมื่อเรามีสมาธิ จิตใจเย็นลง จะทำให้เรานอนหลับสบาย ตื่นเช้ามาจะรู้สึกสดใส พร้อมที่จะสู้ไปกับงาน หรือการเรียนได้อย่างมีความสุข ซึ่งในบทสวดมนต์นั้นไม่ว่าจะเป็นบทใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีอานุภาในตัวเองอยู่มากมาย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ ที่จะเป็นหลักนำทางให้เราดำเนินชีวิตในทุกๆ วันไปได้อย่างราบรื่น ฉะนั้น การสวดมนต์ก่อนนอนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งปฏิบัติทุกวันก็จะส่งผลที่ดีในเรื่องของสมาธิ ปัญญา ทำให้ใจของเราสามารถพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างละเอียด รอบคอบ และใจเย็นมากขึ้น

อานิสงค์จากการสวดมนต์

  1. สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ บทสวดพุทธมนต์นั้น มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าที่ได้ทรงสอนสั่งสาวกและมีการจำและท่องสืบกันมา จนถึงมีการจดบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ผู้ที่ได้มีโอกาสสวดมนต์ในชีวิต เป็นการเปล่งคำศักดิ์สิทธิ์ถวายเป็นพุทธเจ้า เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าและย่อมได้บุญกุศล

  2. เกิดผลดีต่อร่างกาย คนที่สวดมนต์เป็นประจำนั้น ทางการแพทย์สมัยใหม่รับรองแล้วว่า การสวดมนต์ทำให้เกิดความสุขได้จริงในจิตใจ ส่งผลต่อร่างกายให้หลั่งสารความสุขออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรง ใบหน้าสดใส ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณถึงปัจจุบันทราบถึงเคล็ดลับลับสำคัญ ให้สังเกตว่าท่านจะมีอายุยืนมาก และบรรพบุรุษของเรานั้น ท่านสวดมนต์เป็นประจำอายุท่านจึงยืนยาว ไม่เหมือนคนในปัจจุบันที่ห่างเหินการสวดมนต์มาก อายุจึงสั้น

  3. เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง ทำให้มีสมาธิจิตใจ แจ่มใส การสวดมนต์เป็นการสร้างสมาธิวิธีการหนึ่ง เมื่อจิตที่มีสมาธิย่อมแจ่มใส มีกำลัง คิดอ่านแก้ไขปัญหาอะไรก็จะทำได้ง่ายเพราะมีสติกำกับอยู่

  4. เป็นที่โปรดโปรนของเหล่าเทพเทวดาและดวงจิตวิญญาณทั้งปวง แม้ผู้ใดไม่ว่าจะเป็นพรหมเทพเทวดา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย เมื่อได้ยินบทสวดนั้นจะพบกับความเย็นสบาย คลายทุกข์ ทำให้นิยมชมชอบคนที่สวดด้วย และเมื่อยินก็จะช่วยปกป้องรักษาคนที่สวด

  5. เกิดบุญจากการแผ่เมตตา เมื่อสวดมนต์เสร็จสิ้น มีการแผ่เมตตาแก่ตนเองและเหล่าสรรพสัตว์ย่อมเกิดอานิสงส์บุญเกิดขึ้น

  6. ได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่สวดมนต์เป็นประจำนั้นย่อมได้รับการอวยพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอ เพราะเป็นผู้สร้างกรรมดีจากการสวดมนต์และแผ่เมตตา

  7. สร้างสิริมงคลต่อตนเอง และครอบครัว ปัดเป่าภัยพิภัย โรคร้ายได้จริง ทุกบทสวดมนต์นั้นมาจากอักขระที่ศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจดลบันดาลให้สิ่งอัปมงคลนั้นออกไปจากชีวิต และสร้างสิริมงคลให้กับคนที่สวด ยิ่งสวดมากก็จะมีสิริมงคลมากขึ้น ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย

  8. สามารถแผ่บุญไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้ บทสวดมนต์ทุกบทนั้น สมารถแผ่บุญกุศลไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้ทุกเรื่อง ยิ่งเป็นสายเลือดเดียวกันจะยิ่งเร็วขึ้น เพราะมีทั้งบุญและกรรมผูกพันกันมา อานิสงส์ที่ดังที่กล่าวมาข้างต้นคงพอจะทำให้ทุกท่านเข้าใจ เรื่อง อานิสงส์ หรือ ประโยชน์ที่จะรับจากการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ตลอดจนการแผ่เมตตาเป็นอย่างดีแล้วอย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงประโยชน์เบื้องต้นเท่านั้นความจริงแล้วมีอานิสงส์ที่จะได้รับทางอ้อมทางลึกอีกมากมายกว่านี้นักแต่เป็น "ปัจจัตตัง" หรือรู้ได้เฉพาะตัวของแต่ละคนไป โปรดจำไว้เสมอว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นต้องปฏิบัติเองถึงจะได้

  9. เป็นพื้นฐานไปสู่การก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานชั้นสูงต่อไป เมื่อทุกท่านทราบถึงการที่จะต้องทำอย่างไรก่อนถึงจะเริ่มต้นการสวดมนต์ ที่ครบถ้วนทุกประการแล้ว ต่อไปนี้จะขอนำทุกท่านพบกับวิธีการสวดให้ชีวิตดี สวดให้สุข สวดให้รวย กันในลำดับต่อไป    

ขอส่งความสุข ความเจริญ ความดี ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ด้วยบทสวดมนต์ แบบง่าย ๆ 

bottom of page